จากบทความ Part2 ที่ได้ทำความเข้าใจเรื่อง Capital Gain tax และ ESOP ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญของการทำ Startups ในยุคนี้ ในบทความนี้จะพูดถึงเรื่องบทเรียนที่สำคัญที่ Startups ไทยสามารถเรียนรู้ได้จากจีน รวมถึงความท้าทายและความเป็นไปได้ที่เราจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อย่างจีนนั้นมีมากน้อยแค่ไหน มาหาคำตอบไปพร้อมกันๆ!
จากการเติบโตของเศรษฐกิจจีนอย่างก้าวกระโดด แนวโน้มที่ไทยจะเติบโตได้แบบจีนมีมากน้อยแค่ไหน ?
ถ้าถามว่าไทยเหมือนจีนไหม คุณคมสันต์จาก Flash Express คิดว่า คำตอบคือมีทั้งเหมือนและไม่เหมือน เหมือนในเชิงของเทคโนโลยีและในเชิงแผนธุรกิจ แต่ต้องยอมรับว่าโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศแล้วนำกลับมาใช้ที่ประเทศตัวเอง เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ นั้นมีความแตกต่างในเชิงของภูมิภาคที่มีความซับซ้อนมากกว่าจีน ทั้งเรื่องของกฎหมาย ภาษา และวัฒนธรรม เพราะจีนเป็นประเทศที่ใหญ่มากในสนามของการทำธุรกิจ จีนสามารถใช้ภาษาเดียวกัน กฎหมายเดียวกันในการทำธุรกิจได้เลย ในขณะที่ไทย เต็มไปด้วยความแตกต่างทางภูมิภาค ความก้าวหน้าอาจจะกระจุกอยู่แค่ในบางพื้นที่ และการเข้าถึงเทคโนโลยีก็ไม่ได้เป็นไปได้แบบครอบคลุมทั่งประเทศ ต้องยอมรับว่าการจะ Scale Up ไปต่างประเทศได้แบบจีน สำหรับไทยนั้นใช้เวลานานกว่าอย่างแน่นอน
สำหรับ ดร.ธาริตจาก True Digital Park ให้ความเห็นว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้ Startups ไทยเติบโต ต้องยอมรับว่าการเติบโตของ Startups นั้นเพิ่งมาเริ่มดีช่วงหลัง ก่อนหน้านี้ Startups ไทยมีการเติบโตค่อนข้างช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยอ้างอิงจากผลสำรวจวิจัยที่ True ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ พบว่ามีหลาย พื้นที่มากๆ ในวงการ Startups ไทยที่น่าจะพัฒนาไปได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นด้านกำลังคนที่สำคัญมาก (Talent Pool) , Vision Team Management : ว่าจะดำเนินบทบาทเป็น Local Player , International Player หรือ Regional Player แต่การมีกฎหมาย Regulations ต่างๆ ของประเทศไทย จึงทำให้ดูเหมือนว่า Satartups ไทยเรายังพุ่งไปข้างหน้าได้ไม่เร็วนัก
แล้วการบ่มเพาะองค์ความรู้ใหม่ๆจากจีน มีอะไรที่เราสามารถเรียนรู้เพื่อต่อยอด Ecosystem ในไทยได้บ้าง ?
คุณคมสันต์ ให้ความเห็นว่ามีอยู่ 2 สิ่ง คือ :
1. การมีพื้นที่ศูนย์รวมของ Startups
ในประเทศจีน แต่ละมณฑลจะมีศูนย์รวมหรือ Office หรือสถานที่ทำ Startups ที่พบเห็นได้ทั่วไปเป็นเรื่องปกติ และสามารถใช้ทรัพยากรของเพื่อนๆ ที่อยู่ข้างๆ ออฟฟิศได้เลย โดยไม่ต้องสร้างทีมขึ้นมาใหม่ก็ได้ อาจเป็น 3-4 Startups รวมตัวกัน กลายเป็นหนึ่งบริษัท ก็ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายมาก และเกิดขึ้นเยอะด้วย ทำให้จีนสามารถก้าวข้ามคำว่าประสบการณ์ ถ้าวข้ามคำว่าการเรียนรู้ได้เร็ว จึงคิดว่าประเทศไทยเองก็สามารถสร้างพื้นที่สำหรับรวมตัวกันในการบ่มเพาะการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนได้
2. มีบริษัทที่ให้บริการเรื่องของ Training รวมไปถึงหน่วยงาน มหาลัยที่ให้บริการเกี่ยวกับ Startups ค่อนข้างเยอะ
ก่อนที่ Flash จะเริ่มต้นธุรกิจก็มีโอกาสได้ไปอบรมที่ประเทศจีนมาก่อน และใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น แต่เรียนรู้ตั้งแต่การสร้างทีม การหาผู้ลงทุน และการลงทุน ไปจนถึงการ IPO ถือเป็นบทเรียนที่ทำให้รู้ก่อนว่า ในการทำ Startups นั้นมีทางเลือกอะไรบ้าง หากเจอวิกฤตหรือโอกาสที่กำลังเข้ามา
สำหรับมุมมองของคุณคมสันต์คิดว่า คนที่จะทำ Startups ขั้นแรกต้องลืมคำว่า Unicorn ไปก่อน การจะเป็นได้หรือไม่ได้ ต้องโฟกัสตั้งแต่เริ่มต้นก่อน ทำอย่างไรให้ลูกค้ารักเราที่สุด เราจะสร้าง Value อะไรให้กับลูกค้าได้บ้าง จริงอยู่ว่าในมุมมองของ Startups กับมุมมองของบริษัทมีส่วนที่เหมือนกันหลายอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อแตกต่าง นอกจากเทคโนโลยีแล้ว บริษัทส่วนใหญ่มีการมองหากำไรเป็นตัวตั้ง แต่สำหรับ Startups นอกจากต้นทุน กำไรที่เราต้องคำนวณแล้ว สิ่งสำคัญคือการตั้งคำถามว่าเรากำลังแก้ไขปัญหาอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของลูกค้าหรือปัญหาของเรา หรือปัญหาของสังคม โดยที่ยังไม่ได้เอากำไรเป็นตัวตั้ง แต่เอาปัญหาเป็นพื้นฐานก่อน ถ้าเราแก้ปัญหาได้ดีพอ ลูกค้าก็จะต้องการเรา บริษัทเราก็จะมีมูลค่า แล้วกำไรจะตามมาทีหลัง ซึ่งก่อนจะเรียนรู้จากประสบการณ์ เราควรเรียนรู้แล้วลงมือทำ เพื่อทำให้มันดีขึ้น สิ่งเหล่านี้สำคัญมาก คือการเหลามีดก่อน จะได้ตัดฟืนได้คล่องขึ้น ถ้าเหลาไปด้วย ตัดไปด้วยก็ได้เหมือนกัน เพียงแค่ใช้เวลามากกว่า ใช้พลังงานมากกว่า เราแค่ต้องเรียนรู้โดยอยู่ในสถานการณ์ที่เราอยู่ให้มากที่สุด
สรุป
ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันมีช่องทางในการทำธุรกิจมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Cryptocurrency , Blockchain , Defi และอีกมากมายที่เราอาจจะตามไม่ทัน แต่ Startups ก็ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย และเริ่มจะเป็นทางเลือกใหม่ในการทำธุรกิจสายหลัก (Mainstream) มากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงประเทศไทยก็มียูนิคอร์นเพิ่มกลายเป็น 2 รายเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับวงการ Startups ไทยที่กำลังจะเติบโตไปอีกขั้น และเป็นการสร้าง Ecosystem ให้บรรยากาศของประเทศไทยโดยรวมเจริญเติบโต เป็นประเทศที่ก้าวหน้ามากขึ้นไม่น้อยทีเดียว
Article by Thanisorn Boonchote
Office Manager
Chanatinad Chotiksatis
Thailand