โอกาสและเส้นทางเติบโตของ SAP Functional Specialist

Your Opinion
Published: 15.12.25

SAP Functional Specialist Career Path

วันนี้แทมมีหัวข้อดีๆ เกี่ยวกับตำแหน่งงานด้าน SAP มาแชร์ให้กับทั้งแคนดิเดตที่กำลังมองหางานในสาย SAP รวมถึงบริษัท ที่อาจกำลังเริ่มขยายหรือสร้างทีม SAP ภายในองค์กร หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเห็นภาพที่มาที่ไปของแคนดิเดตสาย SAP ในมุมกว้างมากขึ้น

“โอกาสและเส้นทางเติบโตของ SAP Functional Specialist” ในฝั่งของ Consulting Firm
บทความนี้ใช้ข้อมูลที่อ้างอิงจากประสบการณ์ที่แทมได้พบจากการทำงานร่วมกับลูกค้าและแคนดิเดตในตลาด โดยเป็นการสรุปในภาพรวม เนื่องจากในความเป็นจริงแล้ว แต่ละองค์กรย่อมมีเส้นทางการเติบโตของบุคลากรที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและแผนการพัฒนาขององค์กรนั้นๆ ค่ะ

สายงาน SAP Functional Consultant ในบริษัท Consulting Firm
สำหรับสายงาน SAP ในบริษัท Consulting จะค่อนข้างมีความชัดเจนในเรื่องของขอบเขตงานและความรับผิดชอบของ Consultant แต่ละคน โดยมีการแบ่งบทบาทอย่างเป็นระบบ เช่น ในฝั่ง Functional เรามักจะเห็นตำแหน่ง SAP Consultant แยกตาม Module อย่าง MM, SD, PP, FI, CO หรือในบางองค์กรอาจมีตำแหน่ง SAP FICO Consultant สำหรับกรณีที่ต้องการผู้ที่สามารถดูแลทั้ง FI และ CO ได้

หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งงาน SAP ทั้งฝั่ง Functional สามารถย้อนกลับไปอ่านบทความก่อนหน้าของแทมเรื่อง “เข้าใจบทบาท SAP Functional Specialist” ได้เลยค่ะ

ด้วยการแบ่งขอบเขตและบทบาทการทำงานที่ชัดเจนนี้เอง จึงทำให้เส้นทางการเติบโตของ Consultant ในบริษัท Consulting ค่อนข้างตรงไปตรงมา โดยจะพิจารณาจากประสบการณ์เป็นหลัก และเติบโตไปตามลำดับตำแหน่ง ดังนี้

Entry-level (ประสบการณ์ 0–3 ปี): Business Analyst, SAP Analyst, Junior Consultant

Mid to Senior Level (ประสบการณ์ 4–7 ปี): SAP Consultant, Senior Consultant

Lead to Manager Level (ประสบการณ์ 7–10 ปีขึ้นไป): SAP Team Lead, Manager

Senior Manager to VP Level (ประสบการณ์ 10–15 ปีขึ้นไป)

การเติบโตในแต่ละระดับตำแหน่งงานของสาย Consulting จะมี required hands-on experience ที่ค่อนข้างชัดเจนในแต่ละระดับ ตัวอย่างเช่น

การขยับจาก Entry-level ไปสู่ Mid-level นั้น Consultant มักจะต้องมีประสบการณ์การทำงานใน Full Life Cycle Project อย่างน้อย 1–2 โปรเจกต์ และสามารถรับผิดชอบงานในบาง area ของ Module ที่ดูแลได้ด้วยตัวเอง

เช่น ในฝั่งของ FI Consultant จะสามารถดูแลอย่างน้อย 1–2 Sub-module อย่าง AP, AR, GL หรือ AA ได้ หรือในฝั่งของ MM Consultant จะสามารถดูแลบางส่วนของกระบวนการ P2P (Procure to Pay) ได้ ซึ่งโดยทั่วไปจะครอบคลุมในส่วนของ Purchase และ Inventory

ทั้งนี้ ประสบการณ์ในการทำโปรเจกต์ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ยิ่งมี Years of Experience มากขึ้น จำนวนโปรเจกต์ที่เคยผ่านมาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตในสายงาน Consulting ค่ะ

ถัดจาก Mid-level Consultant เมื่อก้าวเข้าสู่ระดับ Senior Consultant ความคาดหวังหลักที่เพิ่มขึ้นคือการสามารถทำหน้าที่เป็น Lead ของ Module ที่รับผิดชอบได้อย่างเต็มรูปแบบ และในบางองค์กรอาจมีบทบาทในการช่วยดูแลหรือประกบ Junior Consultant อีก 1–2 คนด้วย

เมื่อประสบการณ์ในระดับ Senior เพิ่มมากขึ้น และเติบโตต่อไปสู่ระดับ Lead to Manager ขอบเขตความรับผิดชอบก็จะขยายตามไปด้วย จากเดิมที่ดูแลเฉพาะ Module ของตนเอง จะขยับมาดูแล Project ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือหลาย Project พร้อมกัน รวมถึงมีจำนวน Team Members มากขึ้น

ในระดับนี้ บทบาทจะครอบคลุมทั้งงานใน Module ที่เชี่ยวชาญ และการประสานงานกับ Module อื่นๆ พร้อมทั้งทำงานควบคู่ไปกับ Project Manager โดยมีส่วนร่วมในการวางแผนเรื่องระยะเวลา ทรัพยากร และ Timeline ของโปรเจกต์ รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาในภาพรวมและถ่ายทอดลงมาสู่ Module ที่ดูแล

เมื่อก้าวเข้าสู่ระดับ Senior Manager ถึง VP ถือเป็นช่วงที่มีความท้าทายสูงสำหรับ Functional Consultant และยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของใครหลายคนที่เลือกผันตัวไปทำงานในฝั่ง In-house

เนื่องจากในระดับนี้ บทบาทของ Consultant จะเปลี่ยนจากการโฟกัสที่การทำงานกับระบบและทีม Developer มาเป็นการทำงานร่วมกับลูกค้าในเชิงกลยุทธ์มากขึ้น ทั้งในด้านการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าในภาพรวม การเข้าไปมีส่วนร่วมกับงาน Business Development และ Presales รวมถึงการดูแลในเรื่องของ Profit & Loss

ประสบการณ์ด้าน hands-on ที่สั่งสมมาตลอดเส้นทางอาชีพจะถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานความรู้และสร้าง Reputation เพื่อช่วยดึงโปรเจกต์ที่น่าสนใจเข้ามาให้ทีม อย่างไรก็ตาม บทบาทในระดับนี้อาจเป็นความท้าทายสำหรับ Consultant บางคน แม้จะมีทักษะด้านการสื่อสารที่ดี แต่ไม่ได้ต้องการทำงานในฝั่ง Business Development มากนัก จึงอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ Functional Consultant บางส่วน เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น เลือกผันตัวไปทำงานแบบ In-house หรือเป็น Freelance แทน

ครั้งหน้าแทมจะมาแชร์มุมมองเกี่ยวกับ เส้นทางการเติบโตของ SAP Functional Specialist ในฝั่ง In-house เผื่อจะเป็นไอเดียให้กับแคนดิเดตที่สนใจอยากย้ายไปทำงานกับองค์กรโดยตรงค่ะ

Cathcart Technology เป็นมากกว่า Recruitment Agency เราเป็น IT Recruitment Specialist ที่ให้คำปรึกษาทั้งฝั่งแคนดิเดตและลูกค้า เพื่อช่วยตอบโจทย์ของทุกฝ่าย ตั้งแต่การพูดคุยเรื่อง Scope งานใน JD ไปจนถึงการ Deliver Offer ด้วยฐานข้อมูล IT Candidates มากกว่า 61,000 คน ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เรามั่นใจว่าเราจะเป็นส่วนหนึ่งเบื้องหลังในการหาคนที่ใช่ให้กับลูกค้า และให้คำปรึกษาในตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับแคนดิเดตค่ะ

Contact Cathcart Technology
Tel: 02-038-5878
Email: hello@cathcarttechnology.co.th

Supasiri K