ChatGPT ถือว่าเป็นแชทบอทที่ผู้ใช้งานเติบโตอย่างรวดเร็วมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยยอดผู้ใช้งานที่มากกว่า 100 ล้านคนในเวลาเพียงสองเดือนนับจากการเปิดตัว และตอนนี้โมเดลตัวใหม่ล่าสุดอย่าง GPT4 ก็พร้อมจะเปิดตัวภายในเดือนนี้แล้ว! 

ChatGPT4 หรือ GPT4 คืออะไร?

GPT-4 คือแชทบอทที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท OpenAI ที่เพิ่งจะเปิดตัว ChatGPT ตัวล่าสุดไป สร้างผลกระทบและความนิยมในหมู่ผู้ใช้งานในหลาสกหลายวงการ และเป็นจุดเริ่มต้นกระแสของ Generative AI ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน โดย GPT4 นี้ถือว่าเป็น Generation ที่ 4 ของแชทบอทจาก OpenAI แล้ว 

ซึ่ง GPT-4 ย่อมาจาก “Generative Pretrained Transformer 4” เป็น AI ที่พัฒนามาให้สามารถเข้าใจและแสดงผลข้อความด้วยภาษาธรรมชาติ สามารถประมวลผลข้อมูลได้สูงสุด 25,000 คำ สูงกว่า ChatGPT รุ่นปัจจุบันที่เราใช้อยู่นี้ประมาณ 8 เท่า

จุดเด่นของ ChatGPT4

OpenAI ผู้พัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่สำหรับปัญญาประดิษฐ์ เปิดเผยว่า GPT4 จะมีฟีเจอร์เพิ่มมากขึ้นให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบในรูปแบบของรูปภาพ วีดีโอและเพลงได้ แตกต่างจากรุ่นที่เราใช้อยู่ตอนนี้อย่าง ChatGPT 3.5 ที่ยังโต้ตอบได้ในรูปแบบของข้อความเท่านั้น

นอกจากฉลาดขึ้น โต้ตอบได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้นแล้ว GPT4 ก็ยังถูกพัฒนาให้มีความเป็นมุษย์ที่ตอบคำถามได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น และตอบได้เร็วกว่ารุ่นเดิมด้วย ทาง OpenAI ยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่าจะพัฒนาให้เป็นรูปแบบของแอปพลิเคชันที่จะใช้งานในมือถือได้แล้ว ไม่ต้องล้อกอินเพื่อใช้บริการบนเว็บเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 

อีกความสามารถหนึ่งที่ผู้ใช้งานหลายคนเฝ้ารอก็คือการเขียนโค้ด โดยทีมงาน OpenAI ได้มีการจ้าง Programmer และนักพัฒนา Software มากขึ้นเพื่อเร่งพัฒนาฟังก์ชันให้แชทบอทสามารถเรียนรู้และเขียนโค้ดได้ดีขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน   

GPT4 ทำข้อสอบได้และทำได้คะแนนดีด้วย 

จุดสำคัญที่สุดของ GPT-4 ที่พัฒนาขึ้นอีกขั้นคือ สามารถทำข้อสอบระดับสูง อย่าง AP, SAT, GRE ได้คะแนนดีมากกว่า GPT-3.5 ในหลายวิชา โดยเฉพาะวิชาที่ต้องคำนวณหรือมีการเขียนโปรแกรมที่ทำ Leetcode ระดับ Hard ได้ 3 ข้อจาก 45 ข้อ นอกจากนี้ยังถูกปรับให้เรียนรู้และทำความเข้าใจกับประโยคที่ผู้ใช้ป้อนคำสั่งเข้ามาแล้วได้ด้วย โดย GPT-4 สามารถวิเคราะห์เนื้อหาและตอบข้อสอบได้อยู่ในเกณฑ์ดี 

มีการทดลองให้ GPT4 และ GPT 3.5 มาลองทำข้อสอบเนติบัณฑิต ผลปรากฏว่า GPT-4 ทำคะแนนได้อยู่ในระดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 90 ส่วน GPT-3.5 นั้นทำคะแนนได้อยู่ในเปอร์เซ็นไทล์ที่ 10 ข้อสอบอีกวิชาคือชีววิทยาโอลิมปิก GPT-4 ทำคะแนนได้ในระดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 99 แต่ GPT 3.5 นั้นทำคะแนนได้ระดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 31 เท่านั้น

GPT4 เข้าใจรูปภาพ มองเห็นได้และฟังเพลงได้ 

ในโมเดลภาษาเวอร์ชันเดิมอย่าง GPT 3.5 เราจะสามารถโต้ตอบกับ ChatGPT ได้ในรูปแบบของข้อความเท่านั้น แต่โมเดลรุ่นล่าสุดอย่าง GPT4 สามารถตอบรับคำสั่งเป็นรูปภาพได้ และสามารถวิเคราะห์ภาพดังกล่าวเพื่อสร้างข้อความต่าง ๆ ขึ้นมาได้ด้วย ซึ่งทาง OpenAI ก็ได้ประกาศว่าจะมีการพัฒนาให้ปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถในการตอบรับรูปภาพ วิดีโอและฟังเพลงได้ด้วย

ChatGPT4 จะเข้ามาเป็นตัวเปลี่ยนเกมในโลกการทำงาน

นับว่า GPT-4 ได้กลายเป็นอีกขั้นของความสำเร็จในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อการใช้งานของมนุษย์ กลายเป็นผู้เปลี่ยนเกมที่ได้สร้างผลกระทบให้โลกการทำงานมากมายหลายด้าน ครอบคลุมทั้งการเขียน การอ่าน การมองเห็นและการฟัง ซึ่งนี่ถือว่าเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) เลยทีเดียว เชื่อว่าอีกไม่นานปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น จนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GPT4 ได้ที่นี่ :

• GPT-4 is OpenAI’s most advanced system, producing safer and more useful responses

อ้างอิง : 

• OpenAI releases GPT-4, a multimodal AI that it claims is state-of-the-art
• GPT-4 Is Coming: A Look Into The Future Of AI

Article by Thanisorn Boonchote