AI Psychosis คืออะไร? เมื่อการคุยกับ AI อาจกระทบต่อสุขภาพจิต
Published: 24.08.25
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา AI กลายเป็นเครื่องมือดิจิทัลที่ผู้คนทั่วโลกใช้เป็นประจำทั้งเพื่อหาคำตอบ บรรเทาความเครียด หรือแม้กระทั่งใช้พูดคุยแทนที่มนุษย์ แต่ในขณะที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเริ่มแสดงความกังวลต่อพฤติกรรมที่เรียกว่า AI psychosis – อาการที่ผู้ใช้บางรายเริ่มหลุดจากความเป็นจริงหลังใช้งานแชตบอทอย่างหนัก
แม้คำนี้จะยังไม่ใช่คำวินิจฉัยทางคลินิกอย่างเป็นทางการ แต่กรณีศึกษาหลายกรณีพบว่า ผู้ใช้อาจเกิดอาการหลงผิด เช่น เชื่อว่า AI มีชีวิต มีความรู้ลับ หรือพัฒนา “ความสัมพันธ์ทางอารมณ์” กับ AI ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจเชื่อมโยงกับภาวะสุขภาพจิตที่มีอยู่เดิม เช่น โรควิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรือโรคย้ำคิดย้ำทำ
สิ่งที่น่ากังวลคือ AI รุ่นใหม่อย่าง Large Language Model (LLM) ถูกออกแบบมาให้ “เข้าใจ” และ “ตอบสนอง” อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ใช้อาจเผลอมองว่าแชตบอทเป็นมนุษย์จริง ๆ ส่งผลให้เกิดการผูกพันทางอารมณ์ หรือเชื่อคำพูดของ AI โดยไม่กลั่นกรอง
องค์กรวิชาชีพอย่าง American Psychological Association (APA) กำลังเร่งศึกษาแนวทางป้องกันผลกระทบดังกล่าว พร้อมแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้แชตบอทเพื่อจุดประสงค์ทางจิตบำบัด และหันมาใช้การพูดคุยกับมนุษย์จริง ๆ เป็นทางเลือกหลักแทน
ในฐานะ IT Recruitment Agency, Cathcart Technology ใช้เทคโนโลยี AI ในบาง recruitment process และเรามองว่า AI เป็นเพียงเครื่องมือช่วยงาน ไม่ใช่ Decision Maker กระบวนการคัดเลือกของเรายังอาศัยมนุษย์ในการประเมินทัศนคติและศักยภาพอย่างรอบด้าน เราจึงสนับสนุนการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและเตือนให้ผู้ใช้ไม่พึ่งพา AI จนหลงลืมความเป็นจริง เพื่อให้เทคโนโลยีเป็นประโยชน์ต่อการทำงานโดยไม่กระทบสุขภาพจิต