วัฒนธรรมองค์กรสำคัญอย่างไร ทำไมสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลายๆแห่งต้องให้ความสำคัญกับสิ่งนี้

Your Opinion
Published: 21.06.23

วัฒนธรรมองค์กรถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดต่อความสำเร็จของธุรกิจ แต่การจะสร้างวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งในสตาร์ทอัพเทคโนโลยีเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก นั่นเพราะสตาร์ทอัพเป็นองค์กรขนาดเล็กและเต็มไปด้วยความเร่งรีบ มีทรัพยากรภายในองค์กรที่จำกัด และสภาพแวดล้อมมักจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย

What is a startup culture?

Startup culture คือสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ และใช้การสื่อสารที่เปิดเผยและมีระบบเป็นแบบแผน เช่นเดียวกันกับ Tech startup culture ที่เน้นย้ำถึงการทำงานที่มีนวัตกรรม (Innovation), ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) และการทำงานร่วมกันภายในทีม (collaboration)

ในปัจจุบัน ตลาดเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันที่สูงขึ้น วัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์จะช่วยให้บริษัทสตาร์ทอัพมีความเป็นผู้นำและสามารถเข้าถึงตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยที่วิธีการทำงานของบริษัทสตาร์ทอัพจะต้องมีบรรยากาศการทำงานที่ผ่อนคลายและไม่เป็นทางการเหมือนวัฒนธรรมองค์กรแบบเก่า

การสร้างวัฒนธรรมที่ดีในบริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยี

การตระหนักถึงความสำคัญของสภาพแวดล้อมและความรู้สึกของคนในที่ทำงานสามารถนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรได้ ฉะนั้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งสำหรับบริษัทสตาร์ตอัพจึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้พนักงานเห็นคุณค่าในการทำงานร่วมกับผู้อื่น และมีแรงบันดาลใจที่จะทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นของบริษัท

นี่คือ 5 วิธีสำหรับการสร้างวัฒนธรรมสตาร์ตอัพที่แข็งแกร่ง:

1. กำหนดคุณค่าและความเชื่อมั่นของตัวเอง (Define your values)
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวคุณและบริษัทของคุณคืออะไร คุณให้คุณค่าทางนวัตกรรม การร่วมมือ หรือการบริการลูกค้าหรือไม่ เมื่อรู้คุณค่าของตัวเองแล้ว คุณจะสามารถใช้มันเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจและสร้างวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายของคุณได้

2. ทำให้ได้อย่างที่บอกหรือสอนคนอื่น (Practice what you preach)
วัฒนธรรมถูกกำหนดโดยผู้นำองค์กร ดูแลโดยพนักงาน และตรวจสอบโดย HR ในฐานะผู้นำ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิบัติตามสิ่งที่ได้สั่งสอนต่อพนักงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงค่านิยมหลักและพฤติกรรมที่ตัวผู้นำเองได้คาดหวังต่อพนักงาน ในขณะเดียวกัน องค์กรก็ควรสร้างสภาพแวดล้อมให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยในการลองเสี่ยง หากผู้นำองค์กรคำนึงถึงความสำคัญของการร่วมมือและการทำงานภายในทีม ต้องทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

3. เปิดกว้างตั้งแต่เริ่มต้น (Be inclusive from the start)
ลูกทีมที่มีความหลากหลายจะกลายเป็นกำลังแรงงานที่แข็งแกร่งต่อองค์กร การเปิดกว้างรับพนักงานที่มีพื้นเพและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน จะช่วยสนับสนุนวัฒนธรรมที่มีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น

4. ประเมินผลวัฒนธรรมของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ (Regularly reevaluate your culture)
เมื่อบริษัทเติบโตขึ้น วัฒนธรรมภายในองค์กรก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ดังนั้น การหมั่นตรวจสอบสถานภาพของพนักงานอยู่เป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อดูว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรและต้องการอะไร สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้นำสามารถรักษาวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทไว้ได้

5. มีน้ำใจ (Choose kindness)
ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นสิ่งที่เล็กน้อย แต่การมีน้ำใจและช่วยเหลือกันและกันสามารถพัฒนาสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้ดีขึ้นได้ รวมถึงการเลือกใช้คำพูดและการกระทำที่เหมาะสม และการตัดสินใจพิจารณาอย่างมีสติและเชื่อมั่นในตัวพนักงานอยู่เสมอ

ต้นแบบของบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่ได้สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีค่านิยมที่ช่วยสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมให้เติบโต และสนับสนุนพนักงานให้มีความสุขในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงยิ่งขึ้นเช่น บริษัท Airbnb และ Buffer ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและความสมดุลในการทำงาน พวกเขาเชื่อว่าการสร้างสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมที่ดี จะช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จและส่งเสริมความเป็นผู้นำในตลาดที่แข็งแกร่งได้

สรุป

การมีวัฒนธรรมที่ดีในบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีจะช่วยสร้างพฤติกรรมทางธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น สนับสนุนนวัตกรรมและการพัฒนา ดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ และเพิ่มประสิทธิภาพและความสำเร็จขององค์กรในระยะยาวได้

Office Administrator

Benchawan Chanthima

Thailand