ในช่วง 3-6 เดือนที่ผ่านมา เราได้ยินข่าวบริษัทเทคหลายแห่งประกาศลดพนักงานลงจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Tesla ที่ลดพนักงานลงกว่า 200 คน Microsoft ลดพนักงานลงกว่า 300 คน Shopee ที่ปลดพนักงานกะทันหันลงเกือบครึ่ง และ Meta ก็ลดการจ้างงานลงกว่า 30% คำถามก็คือทำไมบริษัทเทคใหญ่หลายแห่งจึงพากันปลดพนักงานลงจำนวนมาก สาเหตุคืออะไร และเราควรปรับตัวอย่างไร?
อธิบายได้ว่าเกิดขึ้นจาก 3 สาเหตุหลักใหญ่ๆ ก็คือ ลดจำนวนคนเพื่อ Save cost , รายได้ที่ลดลงเมื่อเทียบเป็น Year-on-Year เพราะสภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลง และหุ้นที่ร่วงหนักเมื่อเทียบเป็น Year to Date มาลองวิเคราะห์ไปทีละสาเหตุพร้อมกัน
เช่น Netflix ที่ถือเป็น Disruptor แห่งวงการแพลตฟอร์มสตรีมหนังออนไลน์ช่วงแรกๆ ตอนนี้ก็มีคู่แข่งที่ทำแพลตฟอร์มแบบเดียวกันเกิดขึ้นมากมาย ผู้ใช้งานจึงต้องกระจายไปตามความตอบโจทย์ของแต่ละคน เช่น Disney Plus หรือ Amazon Prime ซึ่งทำให้บริษัทเทคที่เคยเป็น Winner take all ก็ต้องแบ่งเค้กให้กับคนอื่นบ้าง ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ Facebook ที่ถือว่า Take all มาตลอดสิบปี เมื่อเกิด Tiktok ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ปี คนก็เริ่มที่จะอพยพไปมากขึ้น
วิเคราะห์สาเหตุ
ซึ่งทั้งสามปัจจัยนี้สรุปได้ว่าเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้บริษัทเทคหลายแห่งต้องทำการลดจำนวนพนักงานออกเพื่อ Save Cost ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดช่วงแรกๆ ถือเป็นโอกาสที่บริษัทเทคจะขยายตัว จึงต้องเร่งขยายบริษัทให้ไวที่สุด นำมาซึ่งการจ้างงานจำนวนมาก เพราะโอกาสมา คนจึงสำคัญ และประสิทธิภาพอาจไม่สำคัญเท่าการเร่งขยายบริษัทให้เติบโตไวที่สุด
แต่ช่วงเวลาพีคนั้นไม่ยั่งยืนตลอดไป เมื่อโควิดซาลง กระแสจึงตีกลับ จึงเป็นธรรมดาที่ต้องลดจำนวนคนให้เหมาะสมตามสถานการณ์ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ ลดจำนวนการจ้างงาน ซึ่งเกิดเป็นวงจรคือ เมื่อเริ่มแรกบริษัทเติบโตมาก ก็ดึงดูดคนจำนวนมาก เกิดเป็น “สงครามแย่งชิงคน” หรือ Talent War แต่เมื่อแย่งชิงคนมาจนมีจำนวนมากแล้ว บริษัทไม่พีคอย่างต่อเนื่องแล้ว จึงต้องปลดพนักงานลงจำนวนมาก Effect หลังจากนั้นจึงเป็น “การลาออกครั้งยิ่งใหญ่” หรือ The Great Resignation