จากรายงานของ World Economic Forum ปีล่าสุด ได้เปิดเผย 10 อันดับของเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีเหล่านี้จะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น การบริการดูแลสุขภาพ สิ่งแวดล้อม การศึกษา ธุรกิจ และสังคมโดยรวม
10 อันดับเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่น่าจับตามองในปี 2023
1. Flexible Batteries:
เเบตเตอรี่แบบใหม่ที่ทำจากวัสดุน้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งสามารถฝังลงในเนื้อผ้าของเสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายของเราได้อย่างง่ายดาย แบตเตอรี่แบบยืดหยุ่นนี้มีศักยภาพช่วยปลูกถ่ายทางการแพทย์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาอื่นๆ ซึ่งมีราคาย่อมเยา สะดวก และสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าแบตเตอรี่แบบเก่า
โดยงานวิจัยคาดการณ์ว่าในปี 2022-2027 การเติบโตของตลาดแบตเตอรี่แบบยืดหยุ่นของทั่วโลกจะสูงถึง 240.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2. Generative AI:
ในปัจจุปันนี้ AI ก็ยังคงเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ จากรายงานของ World Economic Forum ในปีนี้ เปิดเผยว่ามี Generative AI ที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ได้หลากหลาย รวมถึงการสร้างรูปภาพ ข้อความ และเพลง ซึ่ง AI ประเภทนี้จะปฏิวัติวิธีการสร้างและการเสพสื่อของผู้คน ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆในอนาคตได้
3. Sustainable Aviation Fuel (SAF):
เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยลดมลภาวะทางอากาศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมการบินได้ โดยใช้เชื้อเพลิงที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ชีวมวลและของเสีย
ในปี 2023 การผลิต SAF คาดว่าจะสูงถึง 26.4 ล้านแกลลอน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเทียบจากการผลิตในปี 2022 ที่อยู่ประมาณ 13 ล้านแกลลอน นั้นเป็นเพราะการเติบโตของตลาด SAF ได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงคำสั่งของรัฐบาล นโยบายของสายการบิน และความสนใจของนักลงทุน
4. Designer Phages:
เป็นเชื้อไวรัสที่ถูกออกแบบและปรับแต่งเพื่อใช้ทางการแพทย์ ซึ่งมันจะทำลายเชื้อโรคหรือเชื้อแบคทีเรียที่เป็นพาหะของโรคต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้นเชื้อไวรัสพวกนี้มีศักยภาพในการรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะได้อีกด้วย
5. Metaverse for mental health:
Metaverse เป็นโลกจำลองเสมือนจริงที่กำลังกลายเป็นกระเเสนิยมที่จะช่วยรักษาคนที่มีปัญหาสุขภาพทางจิตได้ โดยใช้นวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR)
ล่าสุด Apple ก็ได้เปิดตัว Vision Pro เข้าสู่ตลาดเทคโนโลยี AR และ VR ด้วยคุณสมบัติที่รองรับการแสดงผลเกมส์และภาพยนตร์ที่ใช้กราฟฟิคขั้นสูงและง่ายต่อการเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ต่างๆของ Apple เช่น Magic Keyboard, Magic Trackpad หรือ Airpods
6. Wearable Plant Sensors:
นวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเกษตรอย่าง “เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ตรวจจับพืช” จะเป็นวิธีสำคัญที่จะช่วยตรวจสอบคุณภาพของพืชและช่วยเพิ่มปริมาณของผลผลิตทางการเกษตรได้
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติได้เปิดเผยว่า ภายในปี 2050 โลกจะต้องผลิตอาหารเพิ่มขึ้นถึง 70% เพื่อเลี้ยงปากท้องของประชากรทั่วโลก ดังนั้นเทคโนโลยีประเภทนี้จะตอบโจทย์สำหรับการผลิตอาหารเพื่อการดำรงอยู่ของประชากรโลกอย่างมาก
7. Spatial Omics:
เป็นแนวทางการวิจัยที่ใช้เทคโนโลยีโอมิกส์เข้ามาช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมของระบบชีวภาพและข้อมูลเกี่ยวกับการหาสาเหตุและรักษาโรคต่างๆ ทั้งของคน สัตว์ และพืช ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในการบริการดูแลสุขภาพ การเกษตร และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนายาและการรักษาโรคใหม่ๆ การปรับปรุงผลผลิตพืชผล และการติดตามการแพร่กระจายของโรค
8. Flexible Neural Electronics:
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สื่อระบบประสาทแบบยืดหยุ่นได้ เป็นหนึ่งในเทคโลโนยีที่ล้ำสมัยที่จะช่วยในการรักษาความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ และโรคลมบ้าหมู โดยการฝังอุปกรณ์นี้ลงในสมองและรักษาด้วยการบันทึกคลื่นไฟฟ้าในสมอง กระตุ้นเซลล์ประสาท หรือส่งยาไปรักษาในพื้นที่เฉพาะของสมอง
9. Sustainable Computing:
คลาวด์คอมพิวติ้งแบบยั่งยืน เป็นการใช้เทคโนโลยี Virtualization และ Cloud Computing เพื่อลดจำนวนการใช้งานของเซิร์ฟเวอร์และลดการพึ่งพาศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญและเกี่ยวข้องกับการกักเก็บและพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ ดังนั้น การนำเทคโนโลยีประเภทนี้มาใช้จะเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดทรัพยากรทางการเงิน และลดการใช้พื้นที่สำหรับศูนย์ข้อมูล อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบอีกด้วย
10. AI-facilitated Healthcare:
AI ถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์อย่างเต็มรูปแบบหลังจากมีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 เพราะจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้ขาดแคลนบุคคลกรทางการแพทย์ในส่วนนั้น ดังนั้น AI จึงถูกนำมาใช้แก้ปัญหาในส่วนนี้ เช่น การวินิจฉัยโรค การคัดกรองผู้ป่วย และการพัฒนาขั้นตอนการรักษาใหม่ๆ ซึ่งในอนาคตข้างหน้าการใช้ AI ในทางการแพทย์นี้มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
อ้างอิง
Article by Benchawan Chantima