SAP Specialist: In-house vs Consulting – ความต้องการที่แตกต่างในการสรรหา

Your Opinion
Published: 21.09.25

 

สัปดาห์นี้แทมอยากมาแชร์หัวข้อเกี่ยวกับ ความแตกต่างของลักษณะงานระหว่าง In-house และ Consulting สำหรับตำแหน่ง SAP Specialist
หัวข้อนี้น่าจะเป็นประโยชน์ในการสรรหา SAP Specialist และ SAP Candidates ที่กำลังพิจารณาการเปลี่ยนสายงาน ไม่ว่าจะจาก In-house ไปทำ Consult หรือจาก Consult ที่สนใจย้ายมาทำงานฝั่ง In-house

SAP Specialist: In-house กับ Consult ต่างกันยังไง
หากดูผิวเผิน คำถามนี้อาจจะเป็นสิ่งที่หาคำตอบได้ไม่ยาก และคนในวงการ SAP เองก็คงเคยได้ยินคำสองคำนี้มาบ่อยแล้ว คำอธิบายที่ง่ายและเร็วที่สุดของความแตกต่างระหว่าง SAP Specialist ทั้งสอง roles นั่นก็คือ

In-house SAP Specialist คือผู้ดูแลระบบ SAP ภายในองค์กร โดยเน้นงาน Support และการเชื่อมต่อระบบ SAP กับระบบอื่น ๆ ไปจนถึงการช่วยเหลือ Users ในด้านการใช้งาน
SAP Consultant คือ SAP Specialist ที่เน้นงานด้านการขึ้นระบบ SAP ให้ลูกค้า หรือที่เรียกว่า SAP Implementation Project โดยรูปแบบที่พบบ่อยคือ New Implementation และ Rollout

ความแตกต่างด้าน scope งาน
SAP Specialist ที่ทำงานแบบ In-house จะดูแลระบบ SAP ภายในองค์กร ซึ่งมักเป็นองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ที่ใช้ SAP เป็นระบบ ERP หลัก โดยบทบาทหลักจะเน้นการ ดูแล ปรับปรุง และพัฒนาการใช้งานของระบบ เพื่อให้ตอบโจทย์ Users ให้ได้มากที่สุด

หน้าที่หลัก
• จัดการและวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น
• Change Request Projects
• ประสานงานกับ Vendor กรณีที่ต้องมีการ Custom, Enhancement หรือเมื่อปัญหามีความซับซ้อนระดับ Technical/Developer
• ดูแลการเชื่อมต่อระหว่างระบบ SAP กับระบบ Non-SAP เช่น ระบบ Back-office อื่น ๆ

Note: โดยทั่วไป In-house จะเน้นงานในระบบที่ Go-live แล้วเป็นหลัก

SAP Consultant มักอยู่ในฝั่งของบริษัทที่ให้บริการวางระบบ SAP ให้กับลูกค้า หน้าที่หลักคือการ ขึ้นระบบใหม่ (SAP Implementation) ซึ่งเริ่มตั้งแต่การเก็บ Requirement ไปจนถึงการ Go-live

หน้าที่หลัก
• เก็บ Requirements และเตรียมเอกสารประกอบ
• Blueprint Design
• Configuration และทำ Unit Test
• เตรียมและช่วยดำเนินการด้าน Data Migration
• ทำ UAT กับลูกค้า
• จัดอบรมการใช้งานให้ Users (Training)

ความแตกต่างด้าน Skills และ ประสบการณ์
In-house SAP Specialist จะเน้นการ Support ผู้ใช้งานภายในองค์กร ทั้งในแง่ของการใช้งานระบบ SAP และการทำงานร่วมกับ Application อื่น ๆ ที่ต้องเชื่อมต่อกับ SAP สิ่งนี้ทำให้ In-house โดยทั่วไปมีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับ System Integration Projects และทำงานใกล้ชิดกับ Users รายย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเป็น POC ขององค์กรในการสื่อสารกับ SAP Consultant หรือ Vendor โดยต้องสามารถแปลความต้องการของผู้ใช้งานให้ตรงประเด็น

ในมุมของ SAP Consultant จะเน้นการทำงานในลักษณะ full life cycle project ตั้งแต่การเตรียม Environment, การเก็บ Requirement, การ Implement, การทำ UAT จนถึง Go-live ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องอาศัยทั้งความรู้เฉพาะทางในโมดูลที่ดูแล และประสบการณ์จากการทำโปรเจกต์จริง เพื่อให้สามารถให้คำปรึกษาและสื่อสารกับผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แตกต่างจาก In-house SAP Specialist ที่มักเน้นงาน Support หรือการดูแลระบบหลังจาก Go-live เป็นหลัก

ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงบางส่วนของการอธิบายความแตกต่างของทั้งสองสาย เนื่องจากหน้าที่ของทั้งสองฝั่งอาจมีความทับซ้อนกันได้ ขึ้นอยู่กับขนาดองค์กร โครงสร้างทีม และลักษณะของโปรเจกต์ เช่น องค์กรขนาดใหญ่ที่กำลังขยายสาขา อาจต้องการ SAP Consultant ที่มีประสบการณ์ลงโปรเจกต์มาเสริมทีม หรือในทางกลับกัน บริษัท Consult บางแห่งอาจมองหา In-house SAP Specialist มาช่วยในบทบาทการ Support ลูกค้าแบบ Long-term หลัง Go-live

ทำไมถึงควรทำงานกับ Recruitment Partner ที่เข้าใจในการสรร SAP Specialist?
Cathcart Technology มีทีม Recruitment Consultant ที่เชี่ยวชาญด้านการสรรหา SAP Candidates โดยเฉพาะ
เรามีฐานข้อมูลของผู้สมัครทั้งสาย Consultant และ In-house ครอบคลุมทุกโมดูล ทุกระดับประสบการณ์

ด้วยความเข้าใจในลักษณะงานและบทบาทที่แตกต่างกัน เราจึงสามารถให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด ทั้งกับผู้สมัครและองค์กร
ในโลกของงาน SAP ที่มักมี Scope งานที่ซับซ้อน การมี Recruitment Partner ที่เข้าใจธรรมชาติของตำแหน่งงานนี้
จะช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงผู้สมัครที่เหมาะสมได้อย่าง รวดเร็ว แม่นยำ และยั่งยืน มากขึ้น

Cathcart Technology Team
Tel: 02-038-5878
Email: hello@cathcarttechnology.co.th

Supasiri K