Gig Economy: การขับเคลื่อนวิธีการทำงานในอนาคตของคนรุ่นใหม่เพื่อสอดคล้องกับ “Work-life balance”

Your Opinion
Published: 05.07.23

Gig Economy กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมีผลกระทบอย่างมากต่อวิธีการทำงานของคนยุคใหม่

เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็วและการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นคนทำงานรุ่นใหม่จึงพบว่าวิธีการทำงานแบบเดิมไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตนเองและ work-life balance ในยุคปัจจุบันได้ ซึ่งเป็นยุคที่คนต้องการทำงานและประกอบอาชีพอย่างอิสระและมีความยืดหยุ่น

Gig Economy หรือเศรษฐกิจของการงานจ้างแบบชั่วคราว คือ อิสระในการทำงานและรับงานตามความถนัดของตนเองในระยะเวลาสั้นๆ โดยที่ผู้รับงานสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันหรือสลับไปมาได้ตามความต้องการของตนเอง หรือที่พวกเรารู้จักกันในสายอาชีพ “Freelancers”

เทรนด์ล่าสุดที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจแบบ “Gig” เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2023 คือ

•  กระแสการทำงานแบบทางไกล หรือ “Work from home”

•  ความเชี่ยวชาญทางสายอาชีพที่หลากหลายขึ้น ทำให้คนรับงานและทำงานตามความถนัดและความต้องการของตนเองได้ เช่น การพัฒนาเว็บไซต์ การบริการโฆษณา การถ่ายภาพ และงานอื่นๆที่สามารถทำได้ทางออนไลน์

•  แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นและง่ายต่อการค้นหาและจ้างงาน เช่น Uber, Airbnb, Upwork และ Fiverr

•  นโยบายคุ้มครองจากรัฐบาลที่ได้กำหนดกฎระเบียบสำหรับเศรษฐกิจจ้างงานชั่วคราว เพื่อปกป้องคนทำงานแบบฟรีแลนซ์และเพิ่มความมั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่ควรจะได้

ความท้าทายและโอกาสสำหรับคนทำงานและธุรกิจในยุคเศรษฐกิจแบบ “Gig”

Gig Economy นำมาซึ่งความท้าทายและโอกาสที่สำคัญสำหรับคนทำงานสายฟรีแลนซ์และธุรกิจต่างๆ เนื่องจากเศรษฐกิจแบบ “Gig” เป็นภาคส่วนที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเศรษฐกิจโลกและทำให้พนักงานหลายคนเลือกที่จะบอกลาการเป็นพนักงานประจำ เพื่อผันตัวมาทำงานแบบฟรีแลนซ์แทน

ในสหรัฐอเมริกา จำนวนคนทำงานแบบฟรีแลนซ์คาดว่ามีมากกว่า 57 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 86 ล้านคนภายในปี 2568 ซึ่งจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นสูงนี้ชี้ให้เห็นว่าคนทำงานส่วนใหญ่เล็งเห็นผลประโยชน์ของรูปแบบการทำงานแบบฟรีแลนซ์

ความท้าทายในเศรษฐกิจแบบ “Gig” สำหรับคนที่ทำงานแบบฟรีแลนซ์

» ไม่ได้รับสวัสดิการเหมือนพนักงานประจำ เช่น ประกันสุขภาพ วันลาหยุดที่ยังได้รับค่าจ้าง และแผนการเกษียณอายุ

» ความไม่แน่นอนของตัวงาน เพราะไม่มีการรับประกันว่าจะได้งานที่มั่นคงในระยะยาวและคนที่ทำงานแบบฟรีแลนซ์จะต้องแข่งขันกับกลุ่มคนทีทำงานแบบเดียวกันอีกเป็นจำนวนมาก

» เกิดการแสวงหาผลประโยชน์จากบริษัทว่าจ้างงาน เช่น ค่าจ้างที่ต่ำและไม่คุ้มค่ากับงานที่จ้าง

ความท้าทายของเศรษฐกิจแบบ “Gig” สำหรับธุรกิจหรือผู้ประกอบการอิสระต่างๆ

» ปัญหาการจัดการและสื่อสารกับคนทำงานแบบทางไกลเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญและต้องรับมือกับการทำงานแบบฟรีแลนซ์นี้

» ปฏิบัติตามกฎหมายการจ้างงานของคนทำงานแบบฟรีแลนซ์ ซึ่งส่วนนี้อาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานานสำหรับผู้ประกอบการ

» ความเสี่ยงต่อการถูกขโมยทรัพย์สินทางปัญญาหรือการละเมิดการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัท

โอกาสของเศรษฐกิจแบบ “Gig” สำหรับคนที่ทำงานแบบฟรีแลนซ์

» ความยืดหยุ่นในชีวิตการทำงานที่ไม่ถูกจำกัดขอบเขตสถานที่ทำงานแค่เพียงที่ออฟฟิศ แต่สามารถทำได้ทุกที่ที่สะดวก นี่เป็นประโยชน์ที่สำคัญต่อการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัว หรือที่เรียกว่า “ Work-life balance”

» ความอิสระที่สามารถเลือกประเภทงานและชั่วโมงที่ต้องการทำงานได้ รวมถึงการกำหนดค่าจ้างด้วยตนเอง

» การพัฒนาและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้สามารถต่อยอดโอกาสในการทำงานที่ดีในอนาคตได้

 โอกาสของเศรษฐกิจแบบ “Gig” สำหรับธุรกิจ

» ธุรกิจต่างๆสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้มีความสามารถอันโดดเด่นและมีทักษะเฉพาะตามเนื้องานหรือโครงการตามที่บริษัทต้องการได้ง่าย

» ค่าจ้างที่ถูกกว่าการจ้างพนักงานประจำ เพราะธุรกิจสามารถจ่ายตามชั่วโมงการทำงาน ซึ่งตรงกันข้ามกับการจ่ายรายเดือนของพนักงานประจำ

» ความยืดหยุ่นในการจ้างคนทำงานแบบฟรีแลนซ์จะช่วยตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงและความต้องการของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ของงานที่มีคุณภาพสูงขึ้น

อ้างอิงข้อมูล – https://www.cronj.com/blog/gig-economy-in-2023-opportunities-challenges-strategies/

Office Administrator

Benchawan Chanthima

Thailand