Cloud และ Edge Computing: พลังขับเคลื่อน AI ที่ปฏิวัติธุรกิจยุคดิจิทัล

Your Opinion
Published: 08.12.23

Accenture รายงานว่า 98% ของผู้บริหารเชื่อว่าโมเดลรากฐานของ AI จะมีความสำคัญต่อกลยุทธ์องค์กรธุรกิจของพวกเขาในอีกสามถึงห้าปีข้างหน้านี้ และตามข้อมูลของ IDC ได้มีการคาดการค่าใช้จ่ายของด้าน AI ในปี 2023 นี้ ว่าจะสูงถึง 85.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 57.6 พันล้านดอลลาร์ของปี 2022

Cloud และ Edge Computing เป็นเทคโนโลยีสำคัญสองอย่างที่จะช่วยให้ AI ปฏิวัติธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งในบทความนี้จะกล่าวถึงการทำงานร่วมกันของทั้งสองเทคโนโลยีนี้ พร้อมยกตัวอย่างประกอบ

Cloud และ Edge Computing คืออะไร

Cloud Computing คือ การให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ต่างๆ เช่น หน่วยประมวลผล หน่วยความจำ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล เครือข่าย และซอฟต์แวร์ ยิ่งไปกว่านั้น cloud computing ยังมีความสามารถในการปรับขนาดและความยืดหยุ่นของทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่ธุรกิจต้องการนำมาใช้เพื่อรองรับแอพพลิเคชัน AI ที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าจำนวนมาก สามารถใช้ประโยชน์จากการปรับขนาดของ Cloud Computing เพื่อประมวลผลข้อมูลและแสดงผลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

Edge computing คือ การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลให้ใกล้เคียงกับแหล่งกำเนิดข้อมูลมากที่สุด ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถรับข้อมูลเชิงลึกและสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ  ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ใช้ AI เพื่อควบคุมเครื่องจักรอัตโนมัติสามารถใช้ประโยชน์จาก edge computing เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องจักรและทำการแก้ไขได้ทันทีหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและจำเป็นต้องตรวจสอบทันที

จะเกิดอะไรขึ้นหากองค์กรธุรกิจมีการนำ Cloud และ Edge Computing มาใช้งานร่วมกัน?

Cloud และ Edge Computing เป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างมาก หลายๆธุรกิจเอง ต่างก็เข้าใจถึงประโยชน์ของทั้งสองเทคโนโลยีนี้เป็นอย่างดีและนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตนได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจของตนสามารถได้เปรียบคู่แข่งในการแข่งขันทางธุรกิจ

จากผลสำรวจของ Accenture ยังพบว่า 83% ของความคิดเห็นของผู้บริหารเองก็มีความเชื่อว่า ในอนาคต Edge Computing จะเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้ธุรกิจของตนนำหน้าคู่แข่งคนอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารขององค์กรต่างๆทั่วโลกต่างตระหนักถึงความสำคัญของ Edge Computing และเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ธุรกิจของตนสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ในระยะยาว

ดังนั้นเมื่อมีการใช้ Cloud และ Edge Computing ร่วมกัน ทั้งสองเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถประมวลผลข้อมูลได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มศักยภาพและสามารถปฏิวัติธุรกิจของตนได้

ตัวอย่างการนำ Cloud และ Edge Computing มาใช้ปฏิวัติธุรกิจด้วย AI

•   ธุรกิจค้าปลีก: ใช้ Cloud Computing ในการรวบรวมข้อมูลการขายจากร้านค้าทั้งหมด และใช้ Edge Computing เพื่อประมวลผลข้อมูลการขายจากร้านค้าในแต่ละแห่งและส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้จัดการร้านค้าทันทีหากเกิดปัญหาด้านเครือข่ายหรือข้อมูลการขายถูกโจรกรรมหรือเปลี่ยนแปลง

•   รถยนต์ไร้คนขับ: ใช้ Edge Computing เพื่อประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น กล้อง เรดาร์ และ LiDAR เพื่อควบคุมรถยนต์ให้เคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยมีข้อมูลที่จำเป็นจาก Cloud Computing ส่งมาจากภายนอก เช่น แผนที่ ข้อมูลสภาพการจราจร และข้อมูลสภาพอากาศ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิจัยนี้

การวิจัยนี้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารระดับ C-suite จำนวน 2,100 คน ใน 18 อุตสาหกรรม จาก 16 ประเทศ เพื่อประเมินความสนใจของพวกเขาในด้าน Edge Computing และขอบเขตของการนำเอาวิทยาการนี้ไปใช้ในองค์กรของพวกเขา

อ้างอิงข้อมูลจาก >>RESEARCH REPORT- Leading with edge: How to reinvent with data and AI

Office Administrator

Benchawan Chanthima

Thailand